นายธัญญวิชญ์ เตชาทัตอัครวินท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริษัท เวลลักซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งพัฒนาหลอดไฟแอลอีดี ภายใต้แบรนด์เวลลักซ์ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้รับเหมา เน้นทำตลาดกลางลงล่าง โดยนำเสนอในราคาที่จับต้องได้ บวกกับเทรนด์ของการใช้หลอดไฟฟ้าที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกในบ้าน อาคารสำนักงานต่างๆแล้ว ยังต้องมีความล้ำสมัย ประหยัด คุ้มค่า โดย ผลิตภัณฑ์หลอดไฟ LED ของ WELLUX จะใช้ Innovation LED Samsung Inside เป็นชิป LED Samsung คุณภาพสูงกว่าในท้องตลาด ทนทาน คงทน สว่างกว่า ประหยัดกว่า และคุ้มค่า ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับโลกเพื่อเข้ามาช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของทาง WELLUX ให้มีคุณภาพและเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ที่สุดในยุคนี้
นอกจากนี้บริษัท เน้นการทำกิจกรรมทางการขายและการตลาด โดยร่วมกับบริษัทไทยซัมซุงอิเลคโทรนิกส์จำกัด เจ้าของแบรนด์ซัมซุง แบรน์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และบริษัท ดาต้าบาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของบริษัทไทยซัมซุงอิเลคโทรนิกส์จำกัด นำมือถือ Samaung Galaxy note 9 ซึ่งเป็นมือถือนวัตกรรมล่าสุด มีความฉลาด สนุก และ มือถือ Samsung A7 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีดีไซน์โดดเด่นล้ำสมัย มาเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการขายและการตลาด ในช่วงเปิดตัวสินเค้าใหม่ในประเทศไทย และในการทำแคมเปญใหญ่ๆตลอดปี
“การผนึกกำลังกับแบรนด์Samsung ที่เป็นแบรนด์มือถือระดับโลก เพราะเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของ Samsung ทุกชิ้นเป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย มีคุณภาพสูง ทนทานและคุ้มค่า เราจึงเลือกใช้ชิ้นส่วนของ Samsung เท่านั้นในผลิตภัณฑ์หลอดไฟ LED ของเรา และเมื่อเราวางแผนกลยุทธทางการขายและการตลาด เราจึงตั้งใจเป็นพันธมิตรกับทางSamsung แบรนด์เดียวเท่านั้นในการวางกลยุทธ์ของบริษัท ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และในตลอดปีนี้เราจะมีจัดแคมเปญการแจกผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากSamsung อีกเพื่อตอกย้ำการเป็นพันธมิตรการร่วมมือ และเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีที่ดีในการทำธุรกิจในอนาคตของทั้ง WELLUX และ Samsung อีกด้วย”
นายธัญญวิชญ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของเวลลักซ์คือ กลุ่มผู้รับเหมา ,อสังหาริมทรัพย์ โดย เวลลักซ์ ทำหน้าที่รับจ้างผลิต (OEM) มีกำลังการผลิต 1 แสนหลอดต่อเดือน เบื้องต้นวางจำหน่าย 3 รุ่น โดยเน้นการจำหน่ายแบบ B2C (Business to Consumer) 30-40% และ B2B (Business to Business) 60% โดยบริษัทมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ ผ่านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ด้วยงบ 50 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 500 ล้านบาทภายใน 3 ปีแรก